บุญกิริยาวัตถุที่พระพุทธเจ้าแสดงไว้ในพระไตรปิฎกนั้น มีเพียง ๓
ประการตามที่กล่าวมาแล้ว ส่วนบุญกิริยาวัตถุ ๑๐ นี้
เป็นส่วนที่พระอรรถกถาจารย์นำมาขยายให้มีความหลากหลายและให้ชาวพุทธได้มีวิธีการทำบุญมากขึ้น
มีอธิบายตามลำดับข้อ ดังนี้ ๑-๓. ทานมัย สีลมัย ภาวนามัย มีอธิบายเหมือนบุญกิริยาวัตถุ
๓
๔. อปจายนมัย บุญสำเร็จด้วยการประพฤติถ่อมตน
หมายถึง การแสดงความอ่อนน้อมถ่อมตน และแสดงความเคารพสักการะในบุคคล หรือในสถานที่ที่ควรเคารพ
เป้าหมาย : เพื่อกำจัดความถือตัว ทำลายทิฏฐิมานะ อันเป็นกิเลสสายโทสะ
หลักการปฏิบัติ : มีความเคารพยำเกรงในบุคคลที่ยิ่งกว่าตนโดยชาติกำเนิด เช่น พระราชามหากษัตริย์ ยิ่งกว่าตนโดยวัย คือมีอายุมากกว่า เช่น ลุง ป้า น้า อา และยิ่งกว่าตนด้วยคุณความดี เช่น บิดามารดา พระพุทธเจ้า
ผลที่จะได้รับ : ได้ ทำลายทิฏฐิมานะ ซึ่งเป็นกิเลสที่ทำให้จิตเศร้าหมอง กลายเป็นที่รักใคร่และสรรเสริญของคนทั่วไป อย่างที่ท่านกล่าวไว้ว่า อายุ วรรณะ สุขะ พละ ธรรม ๔ อย่างนี้ ย่อมเจริญแก่ผู้ที่มีปกติกราบไหว้
เป้าหมาย : เพื่อกำจัดความถือตัว ทำลายทิฏฐิมานะ อันเป็นกิเลสสายโทสะ
หลักการปฏิบัติ : มีความเคารพยำเกรงในบุคคลที่ยิ่งกว่าตนโดยชาติกำเนิด เช่น พระราชามหากษัตริย์ ยิ่งกว่าตนโดยวัย คือมีอายุมากกว่า เช่น ลุง ป้า น้า อา และยิ่งกว่าตนด้วยคุณความดี เช่น บิดามารดา พระพุทธเจ้า
ผลที่จะได้รับ : ได้ ทำลายทิฏฐิมานะ ซึ่งเป็นกิเลสที่ทำให้จิตเศร้าหมอง กลายเป็นที่รักใคร่และสรรเสริญของคนทั่วไป อย่างที่ท่านกล่าวไว้ว่า อายุ วรรณะ สุขะ พละ ธรรม ๔ อย่างนี้ ย่อมเจริญแก่ผู้ที่มีปกติกราบไหว้
๕. เวยยาวัจจมัย บุญสำเร็จด้วยการช่วยขวนขวายในกิจที่เป็นกุศล หมายถึง การให้ความช่วยเหลือในกิจที่เป็นประโยชน์ของผู้อื่นหรือส่วนรวม
เป้าหมาย : เพื่อกำจัดความเห็นแก่ตัวที่เป็นกิเลสสาย
โลภะ ให้เป็นคนเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
โอบอ้อมอารี
มีเมตตาตผู้ต่ออื่น
หลักการปฏิบัติ : ช่วยขวนขวายในกิจธุระของผู้อื่นหรือของส่วนรวม ไม่ว่าจะเป็นการช่วยด้วยกำลังแรงกาย
กำลังทรัพย์ หรือกำลังความคิด ไม่นิ่งดูดายกลายเป็นคนใจดำ
ผลที่จะได้รับ : ได้กำจัดกิเลสคือความเห็นแก่ตัวในใจตน และช่วยส่งเสริมภารกิจของคนอื่นให้สำเร็จอีกด้วย
๖. ปัตติทานมัย บุญสำเร็จด้วยให้ส่วนบุญ
หมายถึง การให้สิ่งดี ๆ ที่ตนมีอยู่แก่ผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นวิชาความรู้ เทคนิคหรือเคล็ดลับต่าง ๆ ที่ทำให้การงานนั้นสำเร็จ หรือการอุทิศส่วนบุญ ส่วนกุศลที่ตนทำแล้วแก่ญาติมิตรและสรรพสัตว์ทั้งหลาย
เป้าหมาย : เพื่อลดละความโลภในใจให้น้อยลง
หลักการปฏิบัติ : ถ่ายทอดความรู้ที่ตนมีอยู่และเห็นว่าเป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น ไม่หวงแหนเก็บงำเอาไว้
เพราะเมื่อตนตายไปแล้วจะได้มีผู้สืบทอดความรู้ต่อไป อีกประการหนึ่ง เมื่อทำความดีอย่างใดอย่างหนึ่ง
เช่น ถวายทาน สวดมนต์ ฯลฯ ก็อุทิศส่วนบุญไปให้ผู้ที่ล่วงลับ เจ้ากรรมนายเวรด้วย
ผลที่จะได้รับ : ได้ กำจัดความตระหนี่ในใจ ได้รับความสุขใจอันเกิดจากการเสียสละ
ความรู้หรือความดีของตนได้รับการเผยแพร่ออกไปเป็นประโยชน์แก่ผู้อื่นอีกมาก มาย
๗. ปัตตานุโมทนามัย บุญสำเร็จด้วยการอนุโมทนาส่วนบุญ หมายถึง การแสดงความยินดีในการทำความดีของผู้อื่น ไม่มีจิตริษยา
เป้าหมาย : เพื่อกำจัดกิเลส คือถัมภะ ความหัวดื้อแข่งดี
ความริษยา หลักการปฏิบัติ : ยินดีอนุโมทนากับความสำเร็จของ
ผู้อื่น และนำมาเป็นแบบในการดำเนินชีวิตของตน
ผลที่จะได้รับ : ได้กำจัดกิเลสคือความถือตัวแข่งดี ความอิจฉาริษยาในใจ จิตใจย่อมเป็นสุขและเบาสบาย มีพลังในการที่จะทำความดีให้ได้อย่างเขา
ความริษยา หลักการปฏิบัติ : ยินดีอนุโมทนากับความสำเร็จของ
ผู้อื่น และนำมาเป็นแบบในการดำเนินชีวิตของตน
ผลที่จะได้รับ : ได้กำจัดกิเลสคือความถือตัวแข่งดี ความอิจฉาริษยาในใจ จิตใจย่อมเป็นสุขและเบาสบาย มีพลังในการที่จะทำความดีให้ได้อย่างเขา
เป้าหมาย : เพื่อให้เกิดปัญญาความรอบรู้ ความเห็นชอบ และกำจัดกิเลสคือโมหะ ความหลง ความเห็นผิดต่าง
ๆ
หลักการปฏิบัติ : เลือกฟังในสิ่งที่ดี เช่น ฟังพระธรรมเทศนา ฟังการบรรยายธรรม ตั้งใจฟังครูอาจารย์ที่สอน
หรือหมั่นอ่านหนังสือ และสอบถามข้อข้องใจสงสัย
ผลที่จะได้รับ : เป็นคนฉลาดรอบคอบ มีเหตุมีผล รู้ว่าอะไรดี-ชั่ว อะไรควรทำและไม่ควรทำ
เป็นประโยชน์และไม่เป็นประโยชน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น